บริการลูกค้า
คำถามที่พบบ่อย
share
บริการลูกค้าทิพยประกันชีวิต
คำถามที่พบบ่อย
No. | Questions | Answer |
1. | สามารถชำระเบี้ยประกันภัยผ่านช่องทางไหนได้บ้าง? | ท่านสามารถชำระเบี้ยประกันภัยได้หลายช่องทางได้แก่สำนักงานใหญ่และตัวแทนของบริษัททั่วประเทศ ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร เครื่องATM ผ่านเวบไซด์ของธนาคาร หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิส โดยท่านสามารถค้นหาช่องทางการชำระเบี้ยประกันภัยและวิธีการใช้บริการทั้งหมดได้ที่ ช่องทางการชำระเงิน |
2. | อยากทราบสาขาที่สามารถชำระเบี้ยประกันด้วยเงินสด หรือรูดบัตรเครดิตได้เลยมีที่ไหนบ้าง ? |
สามารถชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิต ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าทิพยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่ ทั้งนี้บางแบบประกันไม่สามารถชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิตได้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ DLA Contact Center โทร. 02-1185555 ซึ่งให้บริการทุกวันทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 19.00 น. (ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
|
3. | เงื่อนไขของการตัดบัตรเครดิต สามารถใช้บัญชีของใครได้บ้าง ? |
ต้องเป็นบัตรเครดิตประเภท Visa หรือ Master Card ของผู้เอาประกันภัย หรือผู้ชำระเบี้ยประกันภัย หรือบัตรเครดิตของผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นบิดา, มารดา, คู่สมรส, บุตร หรือบุคคลที่มีนามสกุลเดียวกันกับผู้เอาประกันภัยเท่านั้น
|
4. |
การขอหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันภัยเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีหรือเป็นหลักฐานการชำระเงิน ต้องทำอย่างไรบ้าง?
|
ท่านสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ด้วยตัวเองบนเว็บไซต์ โดยเข้าไปที่หัวข้อดาวน์โหลดหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันภัย จากนั้นกรอกเลขที่กรมธรรม์และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน กรณีระบบไม่แสดงข้อมูล กรุณาติดต่อได้ที่ DLA Contact Center โทร. 02-1185555 ซึ่งให้บริการทุกวันทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 19.00 น. (ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) |
5. |
สามารถขอใบแจ้งกำหนดการชำระเบี้ยประกันภัยจากช่องทางไหนบ้าง?
|
บริษัทฯจะดำเนินการจัดส่งใบแจ้งกำหนดการชำระเบี้ยประกันภัยให้กับผู้ถือกรมธรรม์ทุกท่านทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้ หรือท่านสามารถติดต่อขอเอกสารดังกล่าวได้ที่ DLA Contact Center โทร. 02-1185555 ซึ่งให้บริการทุกวันทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 19.00 น. (ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) |
6. | ผู้ถือกรมธรรม์สามารถชำระเบี้ยประกันภัยล่าช้าได้กี่วัน? | บริษัทผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยให้ 45 วัน นับแต่วันครบกำหนดชำระเบี้ยประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ประเภทสามัญ ยกเว้นกรณีมีสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัย 31 วัน |
7. | ถ้ามีการชำระเบี้ยประกันภัยเป็นแบบรายปี สามารถเปลี่ยนงวดชำระได้ไหม? | สามารถเปลี่ยนงวดการชำระเบี้ยประกันจากรายปี เป็น ราย 6 เดือน หรือ ราย 3 เดือนได้ (เบี้ยประกันภัยที่ต้องชำระขั้นต่ำราย 3 เดือน และ ราย 6 เดือนต้องไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท และรายปีเบี้ยประกันต้องไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท) โดยผู้เอาประกันภัยสามารถสอบถามและยื่นเอกสารกับตัวแทนประกันชีวิต, สำนักงานใหญ่ หรือจัดส่งทางไปรษณีย์มายังสำนักงานใหญ่ได้ |
8. | ต้องการชำระเบี้ยประกัน แต่ไม่ได้รับใบแจ้งครบกำหนดชำระ สามารถชำระได้ที่ธนาคารใด และ เอกสารที่สามารถใช้ในการชำระเบี้ยมีอะไรบ้าง ? | สามารถชำระได้ที่ธนาคาร - ธนาคารกรุงไทย - ธนาคารกรุงเทพ - ธนาคารกสิกรไทย - ธนาคารธนชาต - ธนาคารทหารไทย - ธนาคารออมสิน โดยระบุชื่อบัญชี “บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)” โดยใช้แบบฟอร์มใบนำฝากแบบพิเศษ หรือ ใบชำระค่าสาธารณูปโภคและบริการของแต่ละธนาคาร และสามารถติดต่อขอรับใบแจ้งครบกำหนดชำระเบี้ยประกัน จาก DLA Contact Center โทร. 02-1185555 ซึ่งให้บริการทุกวันทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 19.00 น. (ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) |
9. | ถ้าชำระเบี้ยมาได้ระยะหนึ่งแล้วแต่ยังชำระไม่หมด และมีปัญหาทางการเงินไม่สมารถชำระต่อได้ ต้องทำอย่างไร? |
เรามีทางเลือกหลายทางเพื่อช่วยผ่อนคลายปัญหาทางการเงินให้คุณ ดังนี้ |
No. | Questions | Answer |
1. | ถ้าต้องการแก้ไขหรือเปลี่ยนข้อมูลการติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์ และ อีเมลของผู้ถือกรมธรรม์ต้องทำอย่างไร? |
สามารถดำเนินการได้ 4 ช่องทาง ได้แก่
1. ติดต่อด้วยตนเองทางโทรศัพท์แจ้งการเปลี่ยนแปลงผ่านทาง DLA Contact Center โทร. 02-1185555 ซึ่งให้บริการทุกวันทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 19.00 น. (ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) 2. ส่งสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ระบุความประสงค์เปลี่ยนแปลงข้อมูลการติดต่อใหม่พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง ผ่านช่องทางอีเมล contactcenter@dhipayalife.co.th 3. ส่งสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ระบุความประสงค์เปลี่ยนแปลงข้อมูลการติดต่อใหม่พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง ผ่านช่องทางแฟกซ์หมายเลข 02-1185601 4. ส่งข้อมูลเอกสารการเปลี่ยนแปลงข้อมูลการติดต่อผ่านตัวแทนประกันชีวิต หรือนำส่งด้วยตัวเองเข้ามาที่สำนักงานใหญ่ บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 63/2 อาคารบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ชั้น 1,3,4,5 และ 6 ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 |
2. | หากทำกรมธรรม์หายต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง? |
เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่
• ใบแจ้งความ (ในใบแจ้งความต้องระบุชื่อ – สกุลของผู้เอาประกันภัย เลขที่กรมธรรม์และ ชื่อบริษัท) • ใบคำร้องขอเปลี่ยนแปลง / ต่ออายุกรมธรรม์ • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ระบุความประสงค์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง • หลักฐานการชำระเงินค่าธรรมเนียม 300 บาท • ส่งเอกสารข้างต้นผ่านตัวแทนประกันชีวิต หรือนำส่งเอกสารด้วยตัวเองเข้ามาที่สำนักงานใหญ่ บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 63/2 อาคาร บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ชั้น 1,3,4,5 และ 6 ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 |
3. | เอกสารที่ใช้ในการเปลี่ยนชื่อ/นามสกุลของผู้เอาประกันภัย,ผู้ชำระเบี้ยประกันภัย หรือ ผู้รับผลประโยชน์ มีอะไรบ้าง ? |
เมื่อผู้เอาประกันภัย หรือ ผู้รับผลประโยชน์ได้ยื่นขอเปลี่ยนแปลงชื่อหรือชื่อสกุลจากหน่วยงานราชการเรียบร้อยแล้ว สามารถแจ้งบริษัทฯ เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลเป็นลายลักษณ์อักษร เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่
• ใบคำร้องขอเปลี่ยนแปลง / ต่ออายุกรมธรรม์ ระบุชื่อ-นามสกุล พร้อมทั้งลงลายมือชื่อเก่า และลายมือชื่อใหม่ • หลักฐานแสดงการเปลี่ยนแปลงชื่อ / นามสกุล ที่ถูกต้องออกโดยหน่วยงานราชการ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนที่เปลี่ยนแปลงชื่อ / นามสกุล เรียบร้อยแล้ว ระบุความประสงค์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง • กรณีเปลี่ยนแปลงลายมือชื่อต้องมีพยานลงนามอย่างน้อย 1 ท่าน ระยะเวลาในการดำเนินการ 3 วันทำการหลังจากทางบริษัทฯ ได้รับเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์ |
4. | เอกสารที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์ มีอะไรบ้าง ? |
ในกรณีที่กรมธรรม์มีผลบังคับ ผู้เอาประกันภัยสามารถขอเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ได้ โดยแจ้งให้บริษัทฯ ทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งผู้รับผลประโยชน์ใหม่จะต้องสามารถพิสูจน์ความสัมพันธ์กับผู้เอาประกันภัยได้
เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่ • ใบคำร้องขอเปลี่ยนแปลง / ต่ออายุกรมธรรม์ ระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์ทั้งหมดเข้ามาใหม่ พร้อมระบุส่วนแบ่ง (%) • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้รับผลประโยชน์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง • เล่มกรมธรรม์ (เฉพาะกรณีขอเป็นผู้รับผลประโยชน์แบบเปลี่ยนแปลงไม่ได้หรือสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์) • หลักฐานพิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เอาประกันภัยกับผู้รับผลประโยชน์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง (กรณีผู้รับผลประโยชน์คนใหม่มิใช่ บิดา มารดา สามี ภรรยา หรือบุตร ของผู้เอาประกันภัย) |
5. | การเปลี่ยนแปลงวิธีรับเงินคืนรายงวดตามกรมธรรม์ มีอะไรบ้าง ? |
ขอให้แจ้งบริษัทฯ ทราบล่วงหน้าก่อนวันครบกำหนดรับเงินคืนอย่างน้อย 30 วัน ในกรณีที่แจ้งช้ากว่ากำหนด บริษัทฯจะจ่ายตามวิธีการที่เลือกไว้ก่อนและจะจ่ายตามวิธีการใหม่ในรอบปีถัดไปที่มีเงินผลประโยชน์จ่ายคืน
เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่ • ใบคำร้องขอเปลี่ยนแปลง / ต่ออายุกรมธรรม์ ระบุข้อ.9 หรือ จดหมายเชิญชวนโอนเข้าบัญชี • สำเนาหน้าสมุดบัญชีประเภทออมทรัพย์ หรือ กระแสรายวัน ธนาคารพาณิชย์ ของผู้เอาประกันภัย / ผู้ชำระเบี้ยประกันภัยพร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ระบุความประสงค์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง |
No. | Questions | Answer |
1. | การเพิ่ม/ลด สัญญาเพิ่มเติม สามารถทำได้เมื่อไร และต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ? |
สามารถยื่นความประสงค์ได้ ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์ (หลักเกณฑ์การเพิ่ม/ลดสัญญาเพิ่มเติมให้เป็นไปตามระเบียบฯ ของสัญญาเพิ่มเติมนั้น ๆ )
เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่ • ใบคำร้องขอเปลี่ยนแปลง / ต่ออายุกรมธรรม์ ระบุข้อที่ 8 • หนังสือรับรองสุขภาพ (กรณีเพิ่มสัญญาเพิ่มเติม) • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ระบุความประสงค์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง • ชำระเบี้ยประกันภัยใหม่ตามเบี้ยใหม่ที่เปลี่ยนแปลง |
2. | ขอเพิ่มทุนประกันได้หรือไม่ และต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ? |
ผู้เอาประกันภัยสามารถขอเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 1 ปีนับจากวันเริ่มสัญญา โดยจำนวนทุนประกันหลักที่เพิ่มขึ้นต้องเป็นอยู่ในหลักพัน
เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่ • ใบคำร้องขอเปลี่ยนแปลง / ต่ออายุกรมธรรม์ ระบุข้อที่ 7 • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ระบุความประสงค์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง • หนังสือรับรองสุขภาพ • ผลตรวจสุขภาพเพิ่มเติมตามวงเงินเอาประกันภัยใหม่/ตามประวัติสุขภาพ • ชำระเบี้ยประกันภัยที่เพิ่มขึ้นย้อนหลังพร้อมดอกเบี้ย (เงื่อนไขการเพิ่มทุนประกันเป็นไปตามระเบียบของบริษัทฯ) |
3. | ขอลดทุนประกันได้หรือไม่ และต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ? |
การลดทุนประกันภัยหลักอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงได้ ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์ โดยคิดอัตราเบี้ยประกันภัยที่อายุเดิม ทั้งนี้หากมีการชำระเบี้ยประกันภัยตามทุนเดิมในงวดนั้นๆ แล้ว ให้ทำได้ ณ วันครบรอบปีครั้งต่อไป
เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่ • ใบคำร้องขอเปลี่ยนแปลง/ต่ออายุกรมธรรม์ ระบุข้อที่ 7 • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ระบุความประสงค์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง • ชำระเบี้ยประกันภัยตามอัตราเบี้ยประกันภัยที่ลดลง (เงื่อนไขการลดทุนประกันเป็นไปตามระเบียบของบริษัทฯ) |
4. | ขอเปลี่ยนงวดการชำระเบี้ยประกันมีเบี้ยประกันภัยขั้นต่ำเท่าไร ? |
ผู้เอาประกันภัยสามารถเปลี่ยนงวดชำระเบี้ยประกันภัยให้สอดคล้องกับความต้องการ ได้โดยเบี้ยประกันภัยราย 3 เดือน และ 6 เดือน เบี้ยประกันไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท และรายปีเบี้ยประกันไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท
เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่ • ใบคำร้องขอเปลี่ยนแปลง / ต่ออายุกรมธรรม์ ระบุข้อที่ 1 • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ระบุความประสงค์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง • ชำระเบี้ยประกันภัยตามงวดใหม่ |
5. | การขอต่ออายุกรมธรรม์ สามารถต่ออายุได้ภายในกี่ปี เอกสารที่ใช้มีอะไรบ้าง | กรณีที่ผู้เอาประกันภัยไม่ได้ชำระเบี้ยประกันภัยครบกำหนด ภายในระยะเวลาผ่อนผัน กรมธรรม์จะขาดอายุลง เว้นแต่ได้มีการแปลงเป็นกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จอัตโนมัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับมูลค่าเวนคืนเงินสดของกรมธรรม์ฉบับนั้น ทั้งนี้ผู้เอาประกันภัยสามารถขอต่ออายุเพื่อให้กรมธรรม์คืนสู่สถานะเดิมได้ภายใน 5 ปี นับตั้งแต่กรมธรรม์ขาดอายุ หรือแปลงเป็นกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จอัตโนมัติตามเงื่อนไขกรมธรรม์ เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่ • ใบคำร้องขอเปลี่ยนแปลง / ต่ออายุกรมธรรม์ • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ระบุความประสงค์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง • หนังสือรับรองสุขภาพ (เฉพาะแบบประกันที่มีการแถลงสุขภาพตามใบคำขอเอาประกันภัยเท่านั้น) • เบี้ยประกันภัยต่ออายุพร้อมดอกเบี้ย • ผลการตรวจสุขภาพตามเกณฑ์ต่ออายุข้างต้น (ถ้ามี) • ค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพเพื่อต่ออายุกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบ • การอ้างอิงผลตรวจสุขภาพและHIV ให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์การพิจารณารับประกันใหม่ (เงื่อนไขการต่ออายุกรมธรรม์เป็นไปตามระเบียบของบริษัทฯ) |
6. | การกู้ยืมเงินตามกรมธรรม์ เอกสารที่ใช้ดำเนินการมีอะไรบ้าง |
สามารถส่งเอกสารเข้ามายังบริษัทฯ ทางไปรษณีย์ หรือ ติดต่อด้วยตนเองที่ บริษัททิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่
เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่ • หนังสือสัญญากู้ยืมเงิน 2 ฉบับต่อ 1 กรมธรรม์ และต้องมีพยานลงนามอย่างน้อย 1 ท่าน • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ระบุความประสงค์ขอกู้เงินตามกรมธรรม์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง • สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ หรือ กระแสรายวัน ของผู้มีสิทธิตามกรมธรรม์พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง ระยะเวลาในการดำเนินการ 2 วันทำการหลังจากได้รับเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์ |
No. | Questions | Answer |
1. | กรณีที่ไปเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ไม่ใช่เครือข่ายของบริษัท สามารถเบิกสินไหมค่ารักษาพยาบาลได้หรือไม่ | หากลูกค้าใช้สิทธิ์ที่โรงพยาบาลนอกเครือข่ายของบริษัท (โรงพยาบาลที่ไม่ใช่โรงพยาบาลคู่สัญญา) ทั้งรพ.ของรัฐและเอกชน รวมไปถึงคลินิกในสัญญากรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองสัญญาเพิ่มเติม HS , OPD ,HS-2 สามารถสำรองจ่ายไปก่อน แล้วนำใบเสร็จรับเงินต้นฉบับและใบรับรองแพทย์ แนบพร้อมกับแบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมทดแทนของบริษัท และส่งเอกสารให้ทางบริษัทพิจารณาการจ่ายสินไหมตามผลประโยชน์ที่ซื้อไว้ (ยกเว้นการเบิกสินไหมผู้ป่วยนอก OPD-2 ที่ทำการรักษาที่คลินิกไม่สามารถเบิกสินไหมได้ ตามเงื่อนไขความคุ้มครองสัญญานี้) |
2. | การแจ้งเรื่องสินไหมหรือสอบถามสิทธิในการเบิกรักษา สามารถติดต่อได้อย่างไร |
สามารถติดต่อได้ 2 ช่องทาง ได้แก่
1. DLA Contact Center โทร. 02-1185555 ซึ่งให้บริการทุกวันทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 19.00 น. (ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) 2. ติดต่อ TPA ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ที่หมายเลข 02-6601209 |
3. | การเรียกร้องสินไหมสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ (HS) และสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก (OPD) เอกสารที่ใช้ดำเนินการมีอะไรบ้าง |
เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่
- แบบฟอร์มการเรียกร้องสินไหมทดแทน - ใบรับรองแพทย์ - ใบเสร็จรับเงินต้นฉบับ พร้อมใบแจ้งรายการค่าใช้จ่าย - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ระบุความประสงค์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง - สำเนาหน้าสมุดบัญชีออมทรัพย์ของผู้เอาประกัน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้องกรณีต้องการรับค่าสินไหมทดแทนโอนเข้าบัญชีธนาคาร |
4. |
การเรียกร้องสินไหมสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพรายวัน (HB)
เอกสารที่ใช้ดำเนินการมีอะไรบ้าง
|
เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่
- แบบฟอร์มการเรียกร้องสินไหมทดแทน - ใบรับรองแพทย์ - สำเนาใบเสร็จรับเงิน - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ระบุความประสงค์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง - สำเนาหน้าสมุดบัญชีออมทรัพย์ของผู้เอาประกัน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้องกรณีต้องการรับค่าสินไหมทดแทนโอนเข้าบัญชีธนาคาร |
5. |
ารเรียกร้องสินไหมสัญญาเพิ่มเติมการประกันอุบัติเหตุ (CPA)
สัญญาเพิ่มเติมสิทธิในการยกเว้นไม่ต้องชำระเบี้ยประกันภัย (WP)
และสัญญาเพิ่มเติมผลประโยชน์ผู้ชำระเบี้ยประกันภัย (PB)
เอกสารที่ใช้ดำเนินการมีอะไรบ้าง
|
เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่
- แบบฟอร์มการเรียกร้องสินไหมทดแทน - ใบรับรองแพทย์ - กรณีเรียกร้องสินไหมสัญญาเพิ่มเติมการประกันอุบัติเหตุ (CPA) ต้องมีสำเนาบันทึกประจำวันของตำรวจ - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ระบุความประสงค์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง - สำเนาสมุดบัญชีออมทรัพย์ของผู้เอาประกัน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง (กรณีต้องการรับค่าสินไหมทดแทนโอนเข้าบัญชีธนาคาร) |
6. | การเรียกร้องสินไหมมรณกรรมทั่วไป เอกสารที่ใช้ดำเนินการมีอะไรบ้าง ? |
เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่
- กรมธรรม์รวมถึงใบเสร็จการชำระเบี้ยประกันงวดล่าสุด - ใบมรณบัตรต้นฉบับ หากเป็นสำเนาให้นายทะเบียนรับรองสำเนาถูกต้อง - บัตรประชาชนต้นฉบับของผู้เอาประกันภัย พร้อมสำเนา - ทะเบียนบ้านต้นฉบับและบัตรประชาชนต้นฉบับของผู้รับประโยชน์ทุกท่าน พร้อมสำเนา - แบบฟอร์มการเรียกร้องสินไหม ของผู้รับประโยชน์ทุกท่าน - ใบรับรองแพทย์ (กรณีเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล) - สำเนาหน้าสมุดบัญชีออมทรัพย์ของผู้รับผลประโยชน์ทุกท่าน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง กรณีต้องการรับค่าสินไหมทดแทนโอนเข้าบัญชีธนาคาร |
7. | การเรียกร้องสินไหมมรณกรรมผิดธรรมชาติ หรือเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุเอกสารที่ใช้มีอะไรบ้าง ? |
เอกสารที่ใช้ดำเนินการ ได้แก่
- กรมธรรม์รวมถึงใบเสร็จการชำระเบี้ยประกันงวดล่าสุด - ใบมรณบัตรต้นฉบับ หากเป็นสำเนาให้นายทะเบียนรับรองสำเนาถูกต้อง - บัตรประชาชนต้นฉบับของผู้เอาประกันภัยพร้อมสำเนา - ทะเบียนบ้านต้นฉบับและบัตรประชาชนต้นฉบับของผู้รับประโยชน์ทุกท่าน พร้อมสำเนา - แบบฟอร์มการเรียกร้องสินไหม ของผู้รับประโยชน์ทุกท่าน - ใบรับรองแพทย์ (กรณีเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล) - สำเนาบันทึกประจำวันของตำรวจ (รับรองสำเนาถูกต้องจากตำรวจ) - สำเนารายงานชันสูตรพลิกศพ (รับรองสำเนาถูกต้องจากตำรวจ) - ภาพถ่ายอุบัติเหตุ (ถ้ามี) - สำเนาหน้าสมุดบัญชีออมทรัพย์ของผู้รับผลประโยชน์ทุกท่าน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง กรณีต้องการรับค่าสินไหมทดแทนโอนเข้าบัญชีธนาคาร |
8. | เงื่อนไขความคุ้มครอง กรณีผู้ป่วยนอกอุบัติเหตุฉุกเฉินมีอะไรบ้าง ? | ต้องเข้ารับการรักษาภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดอุบัติเหตุ และ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น |
9. | สอบถามผลการพิจารณาสินไหมได้อย่างไร | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ DLA Contact Center โทร. 02-1185555 ซึ่งให้บริการทุกวันทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 19.00 น. (ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) |
สอบถามเพิ่มเติม
สอบถามเพิ่มเติม
Thank You! ได้รับข้อความของคุณเรียบร้อยแล้ว ทางเราจะรีบติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด!